วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

4Sync โปรแกรมฝากไฟล์บนอินเตอร์เน็ตให้พื้นที่จุใจฟรี 15 GB

เห็นชื่อโปรแกรม 4Sync แล้วทุกคนอาจจะไม่คุ้นชื่อว่าความเป็นมายังไง แต่ถ้าเป็น   4Shared  แล้ว ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีครับในนาม เว็บแชร์ไฟล์ที่ถูกใจนักดาวน์โหลด อัพโหลด มืออาชีพหลายๆท่าน   วันนี้จะมาแนะนำการฝากไฟล์อีกหนึ่งทางเลือกที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย นั่นคือ โปรแกรม 4Sync ครับ เป็นโปรแกรมสำหรับฝากข้อมูลต่างๆของเราไว้บนอินเตอร์เน็ต โดยไม่มีการสูญหายอย่างแน่นอน  ที่ให้พื้นที่กันแบบจุใจ ถึง 15 GB  ฟรีๆ  พัฒนาโดยทีมงาน 4Shared  ครับ ให้เราฝากไฟล์ส่วนตัวของเราได้หลายรูปแบบ เช่น  รูปภาพ, เพลง, วีดีโอ, และไฟล์สำคัญอื่นๆ  โดยข้อมูลที่เราฝากไว้จะถูกเก็บไว้บนเซิฟเวอร์ของ 4Sync โดยตรง สามารถใช้ได้ทั้ง PC, iOS, Android, Symbian, Blackberry เพื่อถ่ายโอนข้อมูลไปมาได้ตลอดเวลาที่เปิดการใช้งานอินเตอร์เน็ต ยอดเยี่ยมมากเลยครับ  มาดูวิธีติดตั้งและใช้งานกันเลยครับ
ขั้นตอนการดาวน์โหลดและติดตั้ง
ดาวน์โหลด 4Sync

1. ไปที่  http://www.4shared.com  จากนั้นคลิกที่  โปรแกรม  4Sync ตามรูป



2.คลิก  Run  เพื่อติดตั้งทันที




คลิกที่ Next >



คลิก  Install



คลิกที่ ช่องบนเพื่อสร้างบัญชีก่อน  หากยังไม่เคยมีบัญชีกับ  4Sync
คลิกที่ ช่องด้านล่างเพื่อลงชื่อเข้าใช้งาน  หากมีบัญชีกับ  4Sync แล้ว




3.หากมีบัญชีกับ  4Sync แล้ว คลิกที่ช่อง Log in existing account*
4.คลิกที่ลูกศร



5.ใส่ชื่อและรหัสผ่าน
6.เปลี่ยนรูปแบบตามแพลทฟอร์ม ช่องนี้ไม่ต้องทำอะไรเพราะโปรแกรมเซ็ทค่าให้แล้ว ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม
7.คลิกที่ลูกศรเพื่อไปสู่หน้าต่างการอัปโหลดไฟล์



8. หากยังไม่เคยมีบัญชีกับ  4Sync มาก่อนให้คลิกที่ช่องด้านบนเพื่อสร้างบัญชีใหม่
9.คลิกลูกศรไปต่อ




10.ใส่ชื่อ ,อีเมลล์, กำหนดรหัสผ่านที่ต้องการ
11. คลิกลูกศรไปต่อ



12.Log in เพื่อเข้าระบบไปที่บัญชีของเรา ในกรณีที่มีบัญชีอยู่แล้ว
13.จะมีข้อความสีแดงบอกให้เราไปเช็คที่กล่องขาเข้าที่อีเมลล์ และคลิกยืนยันตามลิ้งค์ที่ส่งไปให้ เพื่อเข้าระบบต่อไป



กลับไปเช็คที่กล่องขาเข้าอีเมลล์ของเราที่กรอกไว้ตอนสร้างบัญชีใหม่ และคลิกยืนยันตามลิ้งค์ที่ทาง 4Sync ส่งไปให้



ข้อความขอบคุณจาก 4Sync จากนั้นให้คลิกที่  4Sync ของฉัน  เพื่อเข้าสู่หน้าต่างการทำงานของ 4Sync ในบัญชีของเราเอง


เข้าสู่หน้าต่างการทำงานของ 4Sync ในชื่อบัญชีของเรา โดยเราสามารถทำการอัปโหลด  รูปภาพ, เพลง, วีดีโอ, ฯลฯ โดยตรงที่นี่ และทำการบริหารจัดการกับข้อมูลต่างๆของเราได้ที่หน้านี้



 ขั้นตอนการอัปโหลดข้อมูลผ่านโปรแกรม  4Sync 

การอัปโหลดข้อมูลผ่านโปรแกรม  4Sync  ที่เราได้ทำการติดตั้งไว้ที่เครื่องของเราแล้วทำได้โดยการ ดับเบิ้ลคลิกที่รูปไอคอน  4Sync  ที่หน้าจอคอมฯ ของเราครับ ในครั้งแรกของการใช้งานจะเข้าสู่หน้าต่างการต้อนรับแนะนำวิธีการทำงานของ 4Sync ให้คลิกที่ลูกศรไปเรื่อยๆครับ  จะเข้าไปที่หน้าต่างของโปรแกรมที่มีโฟลเดอร์ต่างๆที่โปรแกรมได้จัดเรียงตามหมวดหมู่ให้เราแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรนะครับ เพราะแฟ้มเหล่านี้ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับบัญชีของเราบนเซิร์ฟเวอร์ของ  4Sync  แล้ว แต่เราก็สามารถที่จะสร้างโฟลเดอร์ย่อยเพิ่มลงไปอีกได้ครับ

14.ดับเบิ้ลคลิกเลือกหมวดหมู่การจัดเก็บที่ต้องการครับ
15.เปิดโฟลเดอร์ ในเครื่องคอมฯ ของเรา ที่เก็บไฟล์ที่ต้องการอัปโหลดขึ้นไปเก็บที่  4Sync ครับ




16.ในที่นี้ทดลองนำภาพไปไว้ที่ แฟ้ม My Photo ครับ
17.คลิกซ้ายลากภาพมาไว้ที่หน้าต่างของ   4Sync ภายใต้  แฟ้ม My Photo ครับ ( หรือจะ Copy ภาพมาวางก็ได้ )



มองลงมาที่ Taskbar ดานล่างขวาของเราครับ จะเห็นการทำงานอัปโหลดไฟล์ของเราขึ้นไปเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ของ  4Sync โดยอัตโนมัติ แต่ก่อนอื่นใดต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ด้วยนะครับ
หลังจากที่เราโอนถ่ายข้อมูล ผ่านโปรแกรม  4Sync เรียบร้อยแล้ว สามารถที่จะเข้าเช็คภาพรวมและบริหารจัดการไฟล์ได้ที่บัญชีของเราเองโดยทำการ Log in ( เข้าสู่ระบบ ) โดยตรงที่เว็บ   https://www.4sync.com/


คลิกเลือกหมวดหมู่การจัดเก็บที่เราได้อัปโหลดไว้ครับ จะเห็นข้อมูลเข้ามาอยู่เรียบร้อยแล้ว โดยในหน้านี้เราจะอัปโหลดข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้โดยตรงอีกตามต้องการครับ ส่วนการทำงานของฟังก์ชั่นเมนูต่างๆก็ลองคลิกศึกษาดูเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ไม่ยากเลยครับเพราะทางผู้พัฒนาโปรแกรม   4Sync มีให้เราเลือกใช้งาน ได้หลายภาษาและที่สำคัญมีภาษาไทยด้วยครับ


จบการแนะนำโปรแกรมฝากไฟล์บนอินเตอร์เน็ต ด้วยโปรแกรม  4Sync ครับ    nanok

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

มาฝากไฟล์ไว้กับ google ดีกว่า ให้พื้นที่มากถึง 5 GB

วันนี้จะมาแนะนำของฟรีอีกแล้วครับ กับการฝากไฟล์ไว้กับ Google ที่เรียกว่า Google Drive เป็น บริการให้เราฝากไฟล์ต่างๆไว้กับเซิร์ฟเวอร์ของ google เองครับ แต่ต้องสมัครลงทะเบียนสร้างบัญชี Gmail ก่อนนะครับจากนั้นก็จะเข้าสู่การใช้บริการฝากไฟล์กับ Google Drive ครับ ลักษณะการทำงานก็คล้ายๆกับโปรแกรม  dropbox ที่ผมได้เขียนแนะนำไปก่อนหน้านั้น  สำหรับ Google Drive เราสามารถที่จะดึงไฟล์ลงมาเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ถ่ายเทข้อมูลไปมาที่อุปกรณ์พกพาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น PC, Mac, iPhone, iPad หรือ Android ได้ตลอดเวลาที่เราต้องการที่สำคัญมีพื้นที่ให้มากถึง 5 GB ครับ อยากเก็บข้อมูลอะไรก็นำไปเก็บได้เต็มพื้นที่ ดีอย่างนี้มาดูวิธีการกันเลยดีกว่าครับ

1.สร้างบัญชีกับ Gmail โดยไปที่ http://www.gmail.com และเริ่มสร้างบัญชีใหม่ ที่หัวข้อ สร้างบัญชี


- กรอกรายละเอียดทำตามขั้นตอนต่างๆ จนเสร็จสิ้น
- เมื่อทำการสมัครสร้างบัญชีเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว จากนั้นกลับไปที่   http://www.gmail.com  อีกครั้งเพื่อลงชื่อเข้าใช้งาน




2.เข้าสู่หน้าบัญชีของเราแล้วครับ จากนั้นไปที่ เมนูด้านบน คลิกที่  ไดรฟ์
3.คลิกตามภาพ  เพื่อ อัปโหลด
4.คลิกที่  ไฟล์...




5.เลือกไฟล์จากในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราที่จะอัปโหลด
6.คลิก  Open



7.จะมีหน้าต่างแสดงสถานะการอัปโหลดไฟล์ที่เราเลือก


8.หลังการอัปโหลดโหลดเสร็จสมบูรณ์ ไฟล์ที่เราเลือกจะแสดงให้เห็นที่ไดรฟ์ของเรา



9.การเปลี่ยนมุมมองการจัดเรียงเพื่อดูข้อมูลต่างๆที่เราได้อัปโหลดไว้ โดยไปคลิกที่เมนู  จัดเรียง
10.คลิกที่  โควต้าที่ใช้
11.จะมีข้อมูลการใช้พื้นที่ของเราที่ได้ใช้ไปแล้ว เพื่อการบริหารจัดการอื่นๆต่อไป



สำหรับการอัปโหลดข้อมูลเพื่อฝากไฟล์ของเราเก็บไว้ที่  Google Drive นั้นยังมีอีกวิธีครับ คือการดาวน์โหลด โปรแกรม Google Drive เพื่อติดตั้งไว้ที่เครื่องของเราแล้วนำไฟล์ที่ต้องการอัปโหลดไปเก็บไว้ที่ โฟลเดอร์ของ Google Drive  แล้วทำการซิงโครไนซ์ เพื่ออัปโหลดไฟล์ขึ้นไปเก็บไว้ครับ

จบขั้นตอน   การฝากไฟล์ไว้กับ  Google Drive ครับ ดีอย่างนี้ต้องรีบสร้างบัญชีกับ Google  แล้วล่ะครับ    nanok


วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เก็บไฟล์ส่วนตัวบนอินเตอร์เน็ตแบบฟรีๆ ด้วยโปรแกรม Dropbox

Dropbox 1.5.9 Experimental เป็นโปรแกรมช่วยสร้างพื้นที่เก็บไฟล์ส่วนตัวของเราบนอินเตอร์เน็ต โดยใช้ระบบ Cloud บนเซิร์ฟเวอร์ของ Dropbox ปัจจุบันการฝากไฟล์ข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเราจะได้พื้นที่ใช้เก็บไฟล์ฟรีๆจาก Dropbox  ถึง 2 GByte. ถ้าพื้นที่ยังไม่พอก็สามารถเพิ่มได้แต่ต้องจ่ายเงินตามแพ็คเก็จที่มีให้เลือกครับ โดยเราสามารถเก็บไฟล์ในรูปแบบต่างๆ ได้ง่ายๆ  เช่น เอกสาร รูปถ่าย เพลง คลิปวีดีโอ โปรแกรมใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ใช้เก็บไฟล์ต่างๆแทนฮาร์ดดิสก์ของเรา ระดับความปลอดภัยสูงไม่มีใครสามารถจะมาขโมยข้อมูลของเราไปใช้งานได้
ระบบปฏิบัติการที่ใช้ได้คือ  Windows, Mac, Linux, iPad, iPhone, Android

ดาวน์โหลด  คลิกที่นี่ dropbox
เว็บไซต์ ( https://www.dropbox.com )

ขั้นตอนการติดตั้ง

1.ไปที่ หน้าดาวน์โหลด  dropbox
2.คลิกที่  Run  เพื่อเริ่มติดตั้งทันที



3.คลิกที่  Install




4.คลิกที่นี่ถ้ายังไม่เคยมีบัญชีกับ Dropbox
5.คลิกที่นี่ถ้าเคยสร้างบัญชีกับ Dropbox ไว้แล้ว
6.คลิก Next



7.ถ้ายังไม่มีบัญชีจะเข้าสู่หน้าลงทะเบียน  ตั้งชื่อผู้ใช้งาน
8.ชื่อต่อท้าย
9.พิมพ์  Email
10.ใส่รหัสผ่าน
11.ใส่รหัสผ่านเดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยัน
12.ชื่อคอมพิวเตอร์ของเรา ส่วนนี้ไม่ต้องตั้งก็ได้ ปล่อยไว้
13.ติ้กเครื่องหมายถูกที่ช่องนี้
14.คลิก  Next



15.คลิก  Next  ถ้าต้องการพื้นที่ฟรี 2 GB




16.คลิก  Install




17.คลิกข้ามขั้นตอนนี้ไป
18.คลิก Next



19.เสร็จสิ้นการติดตั้งแล้ว  Finish



20.จะเข้าสู่หน้าต่างโปรแกรม  Dropbox
21.เปิดแฟ้มที่เก็บไฟล์งานของเราที่ต้องการนำไปฝากไว้ที่  Dropbox  ขึ้นมา
22.ดับเบิ้ลคลิกเปิดแฟ้ม Photos เป็นแฟ้มเริ่มต้นที่โปรแกรมมีมาให้ ( สามารถเพิ่มใหม่ได้ถ้าหากต้องการจัดเก็บไฟล์เป็นหมวดหมู่ )



23.ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปที่  Sameple Album





24.ภาพที่มีมาให้ 3 ภาพนั้นคือตัวอย่าง ลบทิ้งไปเลยก็ได้ครับ
25.เปิดแฟ้มที่เราจะอัพโหลดไปฝากไว้ขึ้นมา  แล้วคลิกซ้ายที่ไฟล์ที่ต้องการอัพโหลดค้างไว้ แล้วลากมาวางที่แฟ้มของ Dropbox  รอสัครู่เพื่อให้ภาพอัพโหลดเสร็จสิ้น จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความเร็วอินเตอร์เน็ตและปัจจัยอื่นๆครับ



26.หากการอัพโหลดเสร็จสมบูรณ์ จะมีเครื่องหมายถูกที่ภาพหรือไฟล์นั้นครับ



27.ในทางกลับกันหากต้องการนำไฟล์ที่ได้อัพโหลดขึ้นไปฝากไว้กลับมา ก็ทำตามขั้นตอนที่ 20 - 26  แต่ให้เราลากไฟล์นั้นกลับมาไว้ที่แฟ้มในเครื่องของเราครับ

จบขั้นตอนการฝากไฟล์ เก็บไฟล์ส่วนตัวบนอินเตอร์เน็ตแบบฟรีๆ ด้วยโปรแกรม Dropbox ครับ    nanok

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สร้างภาพโปสเตอร์ ด้วย POSTERIZA

สวัสดีครับวันนี้จะมาแนะนำการพิมพ์ภาพถ่ายของเราเพื่อทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ขนาดใหญ่  ด้วยโปรแกรม POSTERIZA โดยสามารถพิมพ์เป็นภาพโปสเตอร์หรือป้ายประกาศ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ๆ  ด้วยกระดาษ A4 หลายๆ แผ่นนำมาต่อกันกลายเป็นแผ่นขนาดใหญ่เหมือน โปสเตอร์หรือป้ายประกาศ ป้ายโฆษณา ที่เห็นทั่วๆไป ด้วยเครื่องพิมพ์ของเราเองครับ    โปรแกรมนี้แจกให้ใช้งานฟรี ( Freeware )
ก่อนอื่นดาวน์โหลดมาติดตั้งก่อน    คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหล  POSTERIZA
วิธีการติดตั้ง
1.คลิกที่  with installer(exe)
2.คลิก  Run




3.คลิก  OK


4.คลิก  Next


5. คลิก  I Agree

6. คลิก  Next



 7. คลิก  Install






8.คลิก Finish  เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง และเริ่มต้นใช้โปรแกรมทันที






ต่อไปเป็นขั้นตอนการใช้งาน  โปรแกรม POSTERIZA

1.คลิกที่ Open Image




2.คลิกที่ Border  เพื่อเลือกแบบเส้นขอบที่โปรแกรมมีมาให้
3.คลิกเลือกแบบเส้นขอบ
4.เลือกสีเส้นขอบ และ สีพื้นหลัง
5.คลิกที่  Apply เพื่อดูค่าต่างๆที่ได้ตั้งไว้






6.คลิกที่  Size  เพื่อปรับขนาดต่างๆ
7.โปรแกรมได้ตั้งค่าแบบ อัตโนมัติ ให้แล้ว
8.หากไม่ต้องการ การตั้งค่าแบบ อัตโนมัติ เราสามารถปรับค่าความกว้างและความยาวของโปสเตอร์ได้เอง ว่าเราต้องการจะใช้กระดาษกี่แผ่น
9.เลือกชนิดกระดาษที่จะพิมพ์
10.คลิกเพื่อตั้งค่าขอบกระดาษ
11.คลิกเลือกแนวการพิมพ์ แนวตั้งหรือแนวนอน
12.ตั้งค่าเครื่องปริ้น หากเราได้ติดตั้งเครื่องพิมพ์ไว้แล้วก็ไม่ต้องเข้าไปแก้ไขอะไร
13.คลิกที่  Apply เพื่อดูค่าต่างๆที่ได้ตั้งไว้
14.ดูการแสดงผลที่เราได้ตั้งค่าต่างๆไว้




15.คลิกที่  Texts เพื่อตั้งค่าต่างๆเกี่ยวกับอักษร
16.ช่องนี้จะพิมพ์หัวข้อหลัก หัวข้อรองลงมาตามลำดับ ถ้าไม่ต้องการให้มีก็ไม่ต้องพิมพ์อะไรลงไป
17.คลิกเลือกแบบตัวอักษร
18.คลิกที่  More หากจะตั้งค่าอื่นๆเกี่ยวกับตัวอักษรที่เราใส่ลงที่หน้าโปสเตอร์
19.คลิกที่  Apply เพื่อดูค่าต่างๆที่ได้ตั้งไว้
20.ดูการแสดงผลที่เราได้ตั้งค่าต่างๆไว้




21.คลิก  Save เมื่อเราต้องการจัดเก็บงานไว้หลังการตั้งค่าต่างๆเรียบร้อยแล้ว
22.ตั้งชื่อโปสเตอร์ของเรา
23.Save



24.คลิกที่  Print เมื่อต้องการพิมพ์เพื่อดูผลงานของเราทันที
25.  Ok




จบขั้นตอนแล้วครับกับวิธีสร้างโปสเตอร์ง่ายๆด้วยเครื่องพิมพ์ธรรมดาของเราเอง    nanok

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เปลี่ยนชื่อไฟล์ครั้งละหลายไฟล์ในครั้งเดียวด้วย ACDsee

วันนี้ผมจะมาแนะนำการเปลี่ยนชื่อไฟล์ที่เป็นรูปภาพครั้งละหลายๆไฟล์พร้อมกัน (rename )  ในชั่วพริบตา ด้วยโปรแกรม ACDSee  ไม่ต้อง เปลี่ยนชื่อ (rename) ทีละไฟล์ให้เมื่อยอีกต่อไป

เริ่มต้นก็เก็บไฟล์ทั้งหมดที่จะเปลี่ยนชื่อไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันก่อนครับ
จากนั้นเปิดโปรแกรม  ACDSee ขึ้นมาครับ

1.คลิกเลือกโฟลเดอร์ที่เราเก็บภาพทั้งหมดไว้
2.กด Clrt ค้างไว้ และกด A ( ที่แป้นพิมพ์ ) เพื่อเลือกไฟล์ทั้งหมดที่จะเปลี่ยนชื่อ



3.บนเมนู เลือกที่ Tools 
4.จากนั้นเลือกที่  Batch Rename...



5.ที่ช่อง Use number to replace #'s  ( ใส่เลขแทนที่ชื่อเดิม )
6.ใส่หมายเลข 1 เพื่อเริ่มต้น
7.ตั้งชื่อไฟล์
8.ตั้งค่าต่างๆจนพอใจแล้ว คลิกที่  Start Rename



จบขั้นตอนครับ  เข้าไปดูผลงานในโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์เหล่านี้ครับ

ย่อขนาดภาพครั้งละหลายๆภาพด้วย PIXresizer

บางครั้งรูปถ่ายที่เราได้ถ่ายมาแล้วนั้นส่วนใหญ่จะมีความละเอียดสูง หากจะทำการอัพโหลดไปโชว์บนอินเตอร์เน็ต จะทำให้การอัพโหลดได้ช้าเกินไป ไม่ทันใจ วันนี้ผมจึงมีโปรแกรมตัวหนึ่งที่ช่วยย่อรูปภาพอันแสนสวยงามของเรานั้นให้เล็กลงในขนาดที่เราสามารถกำหนดได้เอง  เพื่อความรวดเร็วในการอัพโหลดครูปภาพ  นั่นคือโปรแกรม  PIXresizer  เป็น Freeware  (ให้ใช้ฟรีๆ) น่าใช้มากโปรแกรมมีขนาดเล็กเพียง 3.29 MB เท่านั้น ไม่กินความจำเครื่องเราโดยไม่จำเป็น

ดาวน์โหลดมาใช้กันฟรีได้ที่    http://pixresizer.en.softonic.com/download

หรือที่     http://bluefive.pair.com/

หลังจากดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว  ก่อนอื่นต้องเตรียมรูปที่จะย่อมารวมไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันก่อนครับ
ดับเบิ้ลคลิกไอคอน เพื่อเข้าสู่โปรแกรมครับ

1. เลือกที่ Work with multiple Files ย่อหลายไฟล์พร้อมกัน  (  Work with one Files ย่อไฟล์เดียว )
2. คลิกปุ่ม Source เพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่เราเก็บรูปไว้ มาย่อขนาดรูป
3. คลิกปุ่ม Destination เพื่อเลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่จะเก็บภาพที่เราย่อเสร็จแล้ว
4. เลือก ขนาดการบีบไฟล์ครับ ค่าที่ตั้งมา (Default) จะอยู่ที่ 600 หรือเราจะปรับขนาดลดลงอีกก็ได้ครับขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน
5. คลิกเลือก ชนิดของไฟล์ครับ ว่าเราจะบันทึกเป็นชนิดใด (แนะนำว่าถ้าจะอัพโหลดไฟล์ ให้เลือกเป็น PNG ครับ)
ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติของไฟล์ชนิดต่างๆครับ
- BMP (.bmp) รูปแบบที่เป็นมาตราฐานของ Microsoft windows แสดงผลได้ 16.7 ล้านสี บันทึกได้ทั้งโหมด RGB, Index Color, Grayscale และ Bitmap สามารถเปิดใช้งานได้หลายโปรแกรม แต่คุณภาพจะสู้รูปแบบ JPEG ไม่ได้
- GIF (.gif) เป็นไฟล์ที่ถูกบีบอัดให้เล็กลง ใช้กับรูปภาพที่ไม่ได้เน้นรายละเอียดสีที่สมจริงเท่าไรนัก ไม่เหมาะกับภาพถ่าย จะเหมาะกับภาพการ์ตูน ภาพแนว vector มากกว่า เนื่องจากมีการไล่ระดับเฉดสีเพียง 256 สี ทำให้มีความละเอียดไม่เพียงพอ แต่มีคุณ-สมบัติพิเศษคือ สร้างภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย หรือที่เรียกกันว่า Gif Animation
- JPEG , JPG (.jpg) คุณภาพของภาพอยู่ในขั้นพอใช้ได้ ทำให้สามารถนำไปใช้งานบนเว็บไซต์ หรือ งานสิ่งพิมพ์ที่ไม่ได้เน้นคุณภาพของภาพมากนัก
- PNG (.png) เป็นไฟล์ที่เหมาะสำหรับใช้ในเว็บไซต์ สามารถบีบอัดขนาดไฟล์ลงได้พอสมควร โดยที่ยังรักษาคุณภาพของภาพเอาไว้ได้ และที่สำคัญสามารถเลือกระดับสีใช้งานได้ถึง 16 ล้านสี
- TIFF (.tif) นามสกุลที่มีความยืดหยุ่นและคุณภาพสูงสุด  การบันทึกเป็นแบบ Cross-platform จัดเก็บภาพได้ทั้งโหมด Grayscale Index Color, RGB และ CMYK เปิดได้ทั้งบนเครื่อง Mac และ PC เหมาะสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์มากที่สุด

*  ถ้าคลิกหัวข้อ  Same as original  คือบันทึกไฟล์ตามต้นฉบับเดิมครับ  ย่อเพียงอย่างเดียว *
6. คลิกปุ่ม SavePictures  เพื่อเริ่มทำการย่อรูปภาพทั้งหมดครับ
7. เสร็จการย่อทั้งหมดแล้ว เข้าไปตรวจสอบผลงานที่ โฟลเดอร์ที่เราได้เลือกจัดเก็บไว้ครับ




วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลบริ้วรอยบนใบหน้าให้เนียนสวยด้วย photoshop

สวัสดีครับ วันนี้จะมาแนะนำวิธี ลบริ้วรอยบนใบหน้า ให้ดูกระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัย ไม่ได้มาขายเครื่องสำอางค์ นะครับ แต่เราจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในโปรแกรม โฟโต้ชอปมาตกแต่งภาพของเราให้ดูเนียนสวยอย่างมืออาชีพ ก่อนส่งภาพไปอวดบนสังคมออนไลน์ที่กำลังมาแรง  โดยวันนี้เราจะใช้เครื่องมือ Clone Stamp ในการรีทัชภาพ ลบริ้วรอย จุดด่างดำ ต่าง ๆ ที่ไม่พึงปราถนา หลักการของเครื่องมือนี้คือการทำสำเนาภาพจากจุดหนึ่งไปยัง อีกจุดหนึ่ง เป็นการยืมภาพจากบริเวณด้านข้างที่สีผิวไกล้เคียงกันมาใช้ลบริ้วรอยเหล่านั้นให้หายไป  เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
1.เปิดโปรแกรม photoshop ขึ้นมาก่อนครับ  และเปิดไฟล์ภาพที่เราต้องการตกแต่งขึ้นมา หากภาพเล็กเกินไปก็สามารถขยายภาพโดย กดที่แป้นพิมพ์ Ctrl ค้างไว้แล้วกดที่เครื่องหมาย +  ขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นตามต้องการ เพื่อความชัดเจนในการลบริ้วรอย



Clone Stamp Tool
2.คลิกเลือกเครื่องมือ Clone Stamp Tool   
3. คลิกปรับขนาดของ Clone Stamp ได้ที่ เมนูบาร์ ที่แถบเครื่องมือ ให้พอดีกับขนาดของพื้นผิว
4.ในตัวอย่างนี้ปรับเป็น 7 px.


 5.คัดลอกพื้นผิวที่ดีไม่มีริ้วรอย ที่อยู่ใกล้เคียงกันโดยนำเครื่องมือ Clone Stamp ไปวางไว้ในส่วนที่เราต้องการคัดลอก จากนั้นกดที่แป้นพิมพ์ Alt  ค้างไว้ และกด Click ลงตรงพื้นที่ที่เราต้องการคัดลอก เพื่อเป็นการเก็บรายละเอียดของส่วนที่เราต้องการ แนะนำให้เก็บส่วนที่ใกล้เคียงกับที่ที่เราจะลบเพื่อความไกล้เคียงของพื้นสีผิว 

6.คลิกเม้าส์ 1 ครั้งทับบริเวณริ้วรอยที่เราไม่ต้องการออก ส่วนที่เราไม่ต้องการนั้นก็จะหายไปกลายเป็นสีผิวใหม่ที่เราได้คัดลอกไว้มาแทน 


7.คลิกไปเรื่อยๆจนกว่า หน้าจะขาวใสไร้ริ้วรอย ตามต้องการครับ  จากนั้น ก็บันทึกภาพนี้ไว้โชว์ได้เลยครับ    

ขอให้สนุกกับการลบริ้วรอยบนใบหน้าให้เนียนสวยด้วย photoshop ครับ   nanok

 
Design by Wordpress Theme | Bloggerized by Free Blogger Templates | coupon codes